ไฟฟ้าสถิตมีผลอย่างไรในงานอุตสาหกรรมและแนวทางป้องกันมีอะไรบ้าง


Posted 17 Aug 2023 10:30 | 1,678 views

ไฟฟ้าสถิต คืออะไร   

ไฟฟ้าสถิต (Static Electricity) คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อมีการสะสมหรือสะสมประจุไฟฟ้าบนพื้นผิวของวัตถุ ซึ่งอาจเกิดขึ้นเมื่อมีการสัมผัสหรือขยับระหว่างวัตถุต่าง ๆ ที่มีความแตกต่างในประจุไฟฟ้า ทำให้เกิดการเก็บประจุไฟฟ้าสถิตบนพื้นผิวของวัตถุนั้น ๆ

ปัญหาที่เกิดจากไฟฟ้าสถิตในงานอุตสาหกรรม

ไฟฟ้าสถิตสามารถเกิดปัญหาและผลกระทบต่องานอุตสาหกรรมได้ในหลายด้าน

1. เสี่ยงการเสียหายแก่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ไฟฟ้าสถิตสามารถทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าชั่วคราวเมื่อเกิดการปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าสถิต ความแรงของกระแสไฟฟ้าชั่วคราวอาจเป็นพอที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เช่น วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ชิปคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ

2. การเสี่ยงต่อความปลอดภัยของพนักงาน

กระแสไฟฟ้าชั่วคราวจากไฟฟ้าสถิตอาจทำให้เกิดการช็อคไฟฟ้าขณะที่มีการสัมผัสกับอุปกรณ์หรือพื้นผิวที่มีประจุไฟฟ้าสถิต สถานการณ์นี้อาจเป็นอันตรายและสามารถกระทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อพนักงานได้

3. ผลกระทบต่อกระบวนการผลิต

ในบางงานอุตสาหกรรม เช่น งานการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การเกิดไฟฟ้าสถิตอาจส่งผลให้เกิดความผิดพลาดในกระบวนการผลิต เช่น การเสียหายของอุปกรณ์หรือผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ การเกิดไฟฟ้าสถิตอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ด้วย

4. การกระตุ้นเครื่องจักรและระบบควบคุม

ไฟฟ้าสถิตอาจเป็นสาเหตุให้เกิดกระแสไฟฟ้าชั่วคราวที่สามารถกระตุ้นการทำงานของเครื่องจักรและระบบควบคุมได้ สถานการณ์นี้อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการทำงาน หรือประสิทธิภาพของระบบควบคุมที่ลดลง

5. ปัญหาในการทดสอบและวัด

การวัดและทดสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือผลิตภัณฑ์ที่มีการสะสมไฟฟ้าสถิตอาจมีความซับซ้อน เนื่องจากต้องคำนึงถึงการกระทำของไฟฟ้าสถิตที่อาจทำให้ผลการทดสอบไม่แม่นยำ

เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากไฟฟ้าสถิตในงานอุตสาหกรรม องค์กรควรมีการอบรมและการปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน ESD (Electrostatic Discharge) เพื่อลดความเสียหายและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ การออกแบบระบบควบคุมและการทดสอบสินค้าควรคำนึงถึงผลกระทบที่เป็นไปได้จากไฟฟ้าสถิตเพื่อให้การผลิตและการทำงานเกิดขึ้นอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

แนวทางป้องกันปัญหาที่เกิดจากไฟฟ้าสถิต

การป้องกันปัญหาที่เกิดจากไฟฟ้าสถิตเป็นสิ่งสำคัญในงานอุตสาหกรรมเพื่อลดความเสียหายและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น นี่คือแนวทางป้องกันที่สามารถนำมาใช้ได้:

1. ใช้เสื่อป้องกัน ESD เสื่อป้องกัน ESD เป็นวัตถุที่ออกแบบมาเพื่อลดการสะสมและการปลดปล่อยไฟฟ้าสถิต และช่วยเป็นตัวกันไฟฟ้าสถิตจากการสัมผัสกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ในบางกรณี เสื่อป้องกัน ESD สามารถนำมาใช้เป็นพื้นผิวที่ทำจากวัสดุที่สามารถกันไฟฟ้าสถิตได้

2. การแบ่งแยกพื้นที่งาน ในงานที่มีการประมวลผลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ควรแบ่งแยกพื้นที่งานเพื่อลดโอกาสในการสะสมไฟฟ้าสถิต และกำหนดพื้นที่ที่มีความเป็นไปได้สำหรับการปลดปล่อยไฟฟ้าสถิต

3. การใช้อุปกรณ์ป้องกัน ESD อุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าสถิต เช่น หมวกหรือเสื้อผ้าป้องกัน ESD จะช่วยลดการสะสมของไฟฟ้าสถิตบนร่างกายและเครื่องแต่งกายของพนักงาน

4. การควบคุมความชื้น ความชื้นส่วนมากจะช่วยลดการสะสมไฟฟ้าสถิต เพราะการสะสมไฟฟ้าสถิตมักเกิดขึ้นในสภาพอากาศแห้ง

5. การเดินสายไฟที่ปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงจากการสะสมไฟฟ้าสถิตในระบบไฟฟ้า ควรเดินสายไฟที่ปลอดภัยและมีการออกแบบที่เหมาะสม

6. การศึกษาและการอบรมพนักงาน การศึกษาและการอบรมพนักงานเกี่ยวกับความเสี่ยงจากไฟฟ้าสถิตและวิธีป้องกันเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้พนักงานรู้จักและเข้าใจถึงความเสี่ยงและวิธีการป้องกัน

7. การตรวจสอบและการบำรุงรักษาอุปกรณ์ การตรวจสอบและการบำรุงรักษาอุปกรณ์เพื่อรักษาสภาพให้พร้อมใช้งาน เป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากไฟฟ้าสถิต

8. การใช้พื้นผิวที่มีความกันไฟฟ้าสถิต ในบางกรณี การใช้วัสดุหรือพื้นผิวที่มีความสามารถในการกันไฟฟ้าสถิตจะช่วยลดการสะสมไฟฟ้าสถิต

9. การควบคุมการเคลื่อนย้าย การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์หรือวัตถุที่อาจสะสมไฟฟ้าสถิตควรมีการควบคุมให้เป็นไปอย่างระมัดระวัง เช่น การเคลื่อนย้ายด้วยเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่มีการกันไฟฟ้าสถิต

การป้องกันปัญหาที่เกิดจากไฟฟ้าสถิตต้องเริ่มต้นจากการทราบและเข้าใจถึงความเสี่ยงและแนวทางป้องกันที่เหมาะสมในงานอุตสาหกรรม การร่วมมือระหว่างพนักงานและผู้จัดการเพื่อให้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน ESD อย่างเต็มที่เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้งานอุตสาหกรรมเกิดขึ้นอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

source : misumitechnical.com / chat.openai.com

#mostorigroup #desco #emit #smartlog pro #partnerthailand