Posted 14 Sep 2023 11:11 | 1,032 views
ESD หรือ Electrostatic Discharge คือปรากฏการณ์ที่มีไฟฟ้าสถิตย์ถูกสะสมบนผิวของวัตถุและถูกปล่อยออกมาเมื่อวัตถุดังกล่าวมีการสัมผัสกับวัตถุอื่น ๆ ที่มีศักย์ไฟฟ้าต่างกัน การสะสมของไฟฟ้าสถิตย์นี้อาจเกิดขึ้นได้ในสภาวะที่ไม่เหมือนในสภาวะปกติ เช่น ในสภาวะแห้งและต่างอุณหภูมิ การ ESD สามารถก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้โดยไม่รู้ตัว และมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพและความทนทานของอุปกรณ์เหล่านั้นอย่างมีนัยสำคัญ
ผลกระทบของ ESD ต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
1. ความเสียหายทันที ESD สามารถทำให้อุปกรณ์ที่มีความอ่อนไหวต่อไฟฟ้าสถิตย์ถูกทำลายทันที โดยอาจทำให้ส่วนประสิทธิภาพของอุปกรณ์ถูกทำลายหรือเสียหายอย่างร้ายแรง
2. ความเสียหายอย่างไม่รู้ตัว ความเสียหายที่เกิดขึ้นในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อาจไม่แสดงออกมาทันที แต่อาจทำให้อุปกรณ์ทำงานไม่ถูกต้องหรือเสียหายเมื่อเวลาผ่านไป
3. ความเสียหายตามเวลา ESD อาจทำให้ความทนทานของอุปกรณ์ลดลงตามเวลา ซึ่งอาจส่งผลให้อุปกรณ์เสียหายอย่างรวดเร็วหรือทำให้เกิดอาการเสียหายในระยะยาว
วิธีการป้องกัน ESD (Electrostatic Discharge)
1. การใช้งานพื้นผิวที่เป็นตัวกันไฟฟ้าสถิตย์ ใช้พื้นผิวที่สามารถลดการสะสมไฟฟ้าสถิตย์ได้ เช่น พื้นหลังพิมพ์ที่เป็นตัวกันไฟฟ้าสถิตย์สำหรับงานอุตสาหกรรม
2. การใช้งานเครื่องมือและอุปกรณ์ป้องกัน ESD ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกัน ESD เช่น ESD wrist straps และ ESD mats เพื่อลดความเสี่ยงในการสร้างไฟฟ้าสถิตย์และป้องกันการสะสมไฟฟ้าสถิตย์บนผิวของผู้ใช้งาน
3. การเก็บรักษาและการจัดเก็บอุปกรณ์ การเก็บรักษาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในภาชนะหรือกล่องที่มีการป้องกัน ESD จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด ESD ในขณะการจัดเก็บ
4. การฝึกฝนและการควบคุมการใช้งาน ฝึกฝนพนักงานให้เข้าใจความสำคัญของ ESD และมีการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ในสภาวะที่มีความเสี่ยงต่อ ESD อย่างเคร่งครัด
5. การใช้งานอุปกรณ์ควบคุม ESD การใช้งานระบบควบคุม ESD เพื่อตรวจจับและป้องกัน ESD ในสถานที่ที่มีความสำคัญ เช่น ในโรงงานผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
การป้องกัน ESD เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาความทนทานและประสิทธิภาพของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การเข้าใจผลกระทบของ ESD และการนำเอามาตรการป้องกัน ESD เข้าใช้ให้เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพของอุปกรณ์เหล่านี้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท
source: chat.openai.com / mostori.com