ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความชื้นและวิธีป้องกันด้วยตู้ Dry Cabinet


Posted 27 Oct 2023 13:06 | 1,005 views

“ความชื้นในอากาศ” นั้นเกิดขึ้นมาจาก “ไอน้ำเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่พบทั่วไปในอากาศ และมีผลทำให้อากาศมีความชื้น และด้วยเหตุที่ไอน้ำในอากาศเกิดขึ้นจากการระเหยของน้ำ”

          ถ้าอากาศมีความชื้นสูงหมายความว่า อากาศมีไอน้ำอยู่เป็นปริมาณมาก ถ้าอากาศมีความชื้นต่ำหมายความว่า อากาศมีปริมาณไอน้ำอยู่เป็นจำนวนน้อย ความชื้นของอากาศมีความหมายใน 2 ลักษณะ คือ

  1. Absolute Humidity หรือ ความชื้นสัมบูรณ์

  2. Relative Humidity หรือ ความชื้นสัมพัทธ์

          ความชื้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเก็บรักษาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ความชื้นในอากาศที่มากเกินไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้หลายประการ ดังนี้

  • การกัดกร่อน ความชื้นในอากาศสามารถทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีกับโลหะและพลาสติกในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้อุปกรณ์เกิดการกัดกร่อนและเสียหายได้
  • การเกิดสนิม ความชื้นในอากาศสามารถทำให้เกิดการกัดกร่อนของโลหะในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้อุปกรณ์เกิดสนิมและเสียหายได้
  • การเกิดเชื้อรา ความชื้นในอากาศสามารถทำให้เกิดเชื้อราขึ้นในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้อุปกรณ์เกิดความเสียหายและอาจแพร่เชื้อไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ได้
  • การเกิดฝ้า ความชื้นในอากาศที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดฝ้าขึ้นภายในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้อุปกรณ์เกิดความเสียหายและอาจทำให้อุปกรณ์ทำงานผิดปกติได้
  • การลัดวงจร ความชื้นในอากาศอาจทำให้อุปกรณ์เกิดการลัดวงจรได้ ส่งผลให้อุปกรณ์เสียหายและอาจทำให้เกิดไฟฟ้าช็อตได้

          เพื่อป้องกันการเสียหายของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากความชื้น ควรเก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไว้ในที่ที่มีความชื้นต่ำ โดยระดับความชื้นที่เหมาะสมสำหรับเก็บรักษาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อยู่ที่ประมาณ 40-60%RH ตู้ควบคุมความชื้น (Dry cabinet) จึงเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับใช้เก็บรักษาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากตู้ควบคุมความชื้นสามารถควบคุมระดับความชื้นภายในตู้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้

   

วิธีการป้องกันความเสียหายจากความชื้นด้วยตู้ Dry Cabinet เป็นมาตรฐานและประสิทธิภาพ ตามนี้คือขั้นตอนที่คุณสามารถทำเพื่อป้องกันความเสียหายด้วยตู้ Dry Cabinet:

  1. เลือกตู้ Dry Cabinet ที่เหมาะสม: การเลือกตู้ Dry Cabinet ที่เหมาะสมสำคัญอย่างยิ่ง เริ่มต้นด้วยการคำนึงถึงขนาดและปริมาณของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่คุณต้องการเก็บรักษา ตัดสินใจระหว่างตู้ขนาดใหญ่หรือเล็ก และตรวจสอบความสามารถในการควบคุมความชื้นในระดับที่คุณต้องการ.

  2. ติดตั้งและตั้งค่า: ติดตั้งตู้ Dry Cabinet ในสถานที่ที่แห้งและมีพื้นที่เพียงพอ หลังจากติดตั้งแล้ว ตั้งค่าระดับความชื้นที่ต้องการ ซึ่งมักอยู่ในช่วงระหว่าง 40% - 50% ความชื้นสัมพันธ์. ตรวจสอบคู่มือการใช้งานของตู้ Dry Cabinet และปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อตั้งค่าอย่างถูกต้อง.

  3. เก็บรักษาอุปกรณ์ในตู้: นำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการเก็บรักษาและวางลงในตู้ Dry Cabinet โดยใช้ลิ้นชักหรือชั้นวางเซ็นเซอร์ เพื่อให้แต่ละชิ้นมีระยะห่างและระบายความความชื้นได้อย่างที่เหมาะสม.

  4. ประสานระดับความชื้น: ตรวจสอบระดับความชื้นในตู้ Dry Cabinet อย่างสม่ำเสมอ และตรวจสอบค่าความชื้นที่แสดงบนหน้าจอหรืออุปกรณ์ควบคุม. แต่ละรุ่นของตู้ Dry Cabinet มีระบบควบคุมความชื้นที่สามารถปรับค่าความชื้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ตรวจสอบและปรับค่าตามความเหมาะสมเพื่อให้ความชื้นอยู่ในเกณฑ์ที่คุณต้องการ.

  5. รักษาความปลอดภัย: ตู้ Dry Cabinet มักมีระบบความปลอดภัยเพื่อป้องกันการเข้าถึงไม่จำเป็น หรือการถูกขโมยอุปกรณ์ อัพเกรดระบบความปลอดภัยและให้คำสั่งการเข้าถึงอุปกรณ์อย่างระมัดระวัง.

  6. ตรวจสอบและบำรุงรักษา: ตู้ Dry Cabinet จะต้องตรวจสอบและบำรุงรักษาเพื่อให้สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลา. ตรวจสอบระบบควบคุมความชื้นและค่าความชื้นอย่างสม่ำเสมอ และสำรองชิ้นสำรองสำหรับอุปกรณ์ควบคุมความชื้น.

การใช้ตู้ Dry Cabinet เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันความเสียหายจากความชื้นและเพิ่มอายุการใช้งานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณ. ถ้าคุณปฏิบัติตามขั้นตอนและคำแนะนำที่เหมาะสม คุณสามารถรักษาและป้องกันความเสียหายจากความชื้นอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย.

source : mostori.com / chat.openai.com / bard.google.com