วิธีเลือกตู้ควบคุมความชื้น (Dry Cabinet) เลือกอย่างไรให้ดีธุรกิจ


Posted 1 Aug 2018 00:58 | 4,436 views

สำหรับท่านที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรมการผลิต โกดังเก็บสินค้า ร้านขายอุปกรณ์ไอที หรือแม้แต่ ผู้ประกอบการสตูดิโอถ่ายภาพ น่าจะคุ้นเคยกับ “ตู้ควบคุมความชื้น (Dry Cabinet)” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ตู้เก็บความชื้น” และไม่ว่าจะเป็นผู้มีประสบการณ์หรือมือใหม่ก็อาจจะต้องเจอกับปัญหาที่ชวนปวดหัวในการ “เลือกตู้ควบคุมความชื้น” ให้เหมาะกับสินค้า วัสดุ หรือผลิตภัณฑ์ของตัวเอง เลือกอยากไรให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์มากที่สุด ? วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน

 

พิจารณา “สิ่งของที่ต้องการเก็บในตู้ควบคุมความชื้น” (Dry Cabinet)

ในขั้นตอนแรกสุดเลยก็คือ ตัวคุณเองจะต้องทราบข้อมูลก่อนว่าจะนำสิ่งของชนิดใดไปใส่ในตู้เก็บความชื้น เพื่อที่จะได้ประเมินขนาด และความจุ เพื่อนำไปคุยกับผู้ให้บริการถึงความต้องการได้มากที่สุด ซึ่งแน่นอนว่า “สิ่งของที่แตกต่างกันย่อมมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไปเช่นเดียวกัน”

 

-         ผงสารเคมี : เรียกได้ว่าตู้ควบคุมความชื้นมีความสำคัญมากเลยทีเดียวในการเก็บรักษาสารเคมีประเภทผง สำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรม เคมีภัณฑ์สำหรับครัวเรือน และการทดลองวิทยาศาสตร์ ที่ควรจะถูกเก็บไว้อย่างมิดชิดในความชื้นที่มีระดับต่ำกว่า 40%RH เพื่อรักษาคุณภาพและป้องกันการเกิดปฏิกิริยากับความชื้นในอากาศที่จะส่งผลมากต่อคุณสมบัติของสารเคมี

-         เครื่องเซรามิค : เครื่องใช้เซรามิค เครื่องลายคราม และสินค้าระดับพรีเมี่ยม ไม่ควรเป็นอย่างยิ่งที่จะเก็บไว้ในในโกดังธรรมดา ที่มักมีสภาพอากาศในอุณหภูมิห้อง หรืออุณหภูมิที่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป เพราะตัวแปรในเรื่องของอากาศมีส่วนสำคัญมากเลยทีเดียวที่จะทำให้เกี่ยวความเสื่อมโทรมของลวดลาย และผิวหนังของเซรามิค ดังนั้นสินค้าเซรามิค หรือแม้แต่เครื่องใช้เซรามิคทั่วไปก็ควรจะต้องเก็บรักษาไว้ใน “ตู้ควบคุมความชื้น” ที่สามารถควบคุมได้ดีในระบบ 30-50%RH

-         ของสะสม ของเก่า : ตู้ควบคุมความชื้นไม่เพียงแต่จะถูกใช้ในอุตสาหกรรม หรือการใช้เชิงพาณิชย์เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถใช้สำหรับเก็บรักษาของสะสมได้เป็นอย่างดี เพราะความเปราะบางของบรรดาของสะสมโบราณ ไม่ว่าจะเป็นงานไม้ งานเซรามิคโบราณ หรือสิ่งของต่างๆ มักจะโดนทำลายด้วย “ปฏิกิริยากับความชื้นในอากาศ” จนผุพังอยู่เสมอ ปัญหานี้แก้ได้ด้วยการเลือกใช้ “ตู้ควบคุมความชื้น” ที่สามารถควบคุมได้ดีในระบบ 40-65%RH

-         เอกสาร รูปถ่าย : หลายท่านมักจะมองข้ามกับเก็บรักษาเอกสารสำคัญ จนโดนความชื้นทำให้เกิดคราบเหลือง เอกสารเสียหาย ภาพถ่ายที่เก็บไว้สีเพี้ยน ปัญหาเหล่านี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นถ้าการเก็บรักษาไว้ในตู้ควบคุมความชื้นที่ระดับ 30 - 50 %RH ซึ่งจะสามารถคงความสมบูรณ์ของเอกสารไว้ได้อย่างดี

-         กล้องถ่ายรูปและเลนส์ : ตู้ควบคุมความชื้นมักจะนิยมถูกใช้ในการเก็บรักษากล้องถ่ายรูปและเลนส์กันอยู่เสมอ ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาคุณภาพของกล้องและเลนส์ที่มีราคาค่อนข้างสูง รวมไปถึงป้องกันไม่ให้เชื้อราเข้ามาสร้างปัญหาให้กับการถ่ายรูป ดังนั้นควรเก็บรักษาในการควบคุมความชื้นที่ระดับ 30-40%RH อย่างมิดชิด


-         เมล็ดพืช เมล็ดพันธุ์ : การเก็บรักษาเหล่าเมล็ดพันธุ์มีความสำคัญมากเลยทีเดียวที่จะต้องควบคุมความชื้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจาก “ความชื้น” คือตัวแปรหลักที่จะทำให้เมล็ดพันธุ์งอกและเจริญเติบโตก่อนที่จะได้เวลาที่เหมาะสม ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือ การเก็บรักษาใน “ตู้ควบคุมความชื้น” ที่สามารถควบคุมได้ดีในระดับที่ต่ำกว่า 10%RH


-          ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์: หากท่านใดต้องการจะใช้ตู้ควบคุมความชื่นในการเก็บชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จะต้องเลือกเก็บใน “ตู้ควบคุมความชื้นที่คุมได้ในระดับที่ต่ำมาก” เนื่องจากสิ่งของประเภทนี้ต้องการความชื้นในระดับที่ต่ำกว่า 5%RH ซึ่งจะต้องเก็บในตู้ที่มีการลดระดับค่าความชื้นได้อย่างรวดเร็วหลังเปิดปิดตู้ เพื่อรักษาคุณภาพของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เอาไว้

พิจารณา “งบประมาณ” ที่วางเอาไว้เพื่อซื้อ Dry Cabinet

หลังจากที่ได้ความต้องการระดับความชื้นของสิ่งที่จะเลือกใช้กับ “ตู้ควบคุมความชื้น” กันแล้ว เรื่องของงบประมาณก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญ เพราะ “ตู้ควบคุมความชื้น” มีหลายรุ่น หลายราคา และเพื่อให้ง่ายกับทางทีมผู้ให้บริการที่จะสามารถช่วยคุณเลือกในการเลือกตู้ที่สอดคล้องกับความต้องการมากที่สุด

 

เพราะความต้องการที่หลากหลายใน “การควบคุมความชื้น” พวกเราก็ยินดีนำเสนอ “ตู้ควบคุมความชื้น (Dry Cabinet)” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ตู้เก็บความชื้น” ที่มีหลากหลายรุ่น หลากหลายราคาจาก TOTECH GLOBAL ไม่ว่าจะเป็น

 

CSD-1104-03 / CSD-1106-03 : ที่ผ่านการออกแบบด้วยวิศวกรรมชั้นสูงในการจัดเก็บและควบคุมความชื้นในระดับปานกลางถึงระยะยาว ในการควบคุมความชื้นในระดับต่ำสุดที่ <3%RH ทำการด้วยระบบพัดลมควบคุมอากาศ  พื้นผิวทุกชิ้นได้รับการเคลือบ ESD ตามมาตรฐาน ESD 61340-5-1 อย่างดี

โดยในรุ่น “CSD-1104-03” จะมีลักษณะเด่นหลักก็คือ แบ่งตู้ออกเป็นสองชั้น ส่วนรุ่น CSD-1106-03 จะแบ่งตู้ออกเป็นสามชั้น แตกต่างกันไปตามการใช้งานของแต่ละคน
 

รายละเอียดเพิ่มเติม : (mostori.com/product_group_sub.php?gs=17)

 

SD-1104-02 / SD-1106-02 : สำหรับในรุ่นนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยพร้อมมาด้วยประสิทธิภาพที่โดดเด่นในเรื่องของการคงความแห้งในการจัดเก็บของสิ่งของที่ไวต่อความชื้น และยังสามารถควบคุมความชื้นที่ต่ำสุดถึง 2% RH ระดับความชื้นถูกควบคุมอย่างแม่นยำด้วยระบบพิเศษโดยแผงดิจิตอล ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับบรรจุภัณฑ์ SMD ที่ไวต่อความชื้นมากอีกด้วย

โดยในรุ่น “SD-1104-02” จะมีลักษณะเด่นหลักก็คือ แบ่งตู้ออกเป็นสองชั้น ส่วนรุ่น SD-1106-02 จะแบ่งตู้ออกเป็นสามชั้น แตกต่างกันไปตามการใช้งานของแต่ละคน
 

รายละเอียดเพิ่มเติม : (mostori.com/product_group_sub.php?gs=17)

 

Reference : www.facebook.com/totechthai/
http://www.clubsnap.com/forums/showthread.php?t=444896
https://smtdryboxes.com/how-to-select-a-dry-cabinet/