ตัวอย่างการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ (Cobots)


Posted 23 Jan 2025 08:42 | 71 views

"ช่วยเสริมประสิทธิภาพงานที่ต้องการความแม่นยำ ความปลอดภัย และการปรับตัวสูง โดยมนุษย์ยังคงควบคุมและปรับแต่งงานได้อย่างยืดหยุ่น"

ตัวอย่างการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ (Cobots):

  1. สายการผลิตยานยนต์
    Cobots ช่วยประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ เช่น การขันน็อตหรือการติดตั้งชิ้นส่วนต่าง ๆ ควบคู่กับพนักงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพและปรับแต่งรายละเอียด

  2. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
    หุ่นยนต์ร่วมทำงานช่วยจัดวางแผงวงจรขนาดเล็กและเชื่อมต่อส่วนประกอบต่าง ๆ โดยมนุษย์จะควบคุมการตั้งค่าที่ต้องการความแม่นยำสูง

  3. อุตสาหกรรมโลจิสติกส์และคลังสินค้า
    Cobots ช่วยหยิบและจัดเรียงสินค้าตามคำสั่งซื้อ ขณะที่พนักงานทำหน้าที่ตรวจสอบและบรรจุสินค้าสำหรับการจัดส่ง

  4. อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
    หุ่นยนต์ช่วยบรรจุและติดฉลากผลิตภัณฑ์ เช่น ขวดเครื่องดื่ม ขณะที่มนุษย์ควบคุมกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของผลิตภัณฑ์

  5. การดูแลสุขภาพ
    Cobots ช่วยเตรียมยาในการจ่ายให้ผู้ป่วยหรือสนับสนุนงานตรวจวินิจฉัย ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ให้คำปรึกษาและดูแลผู้ป่วยโดยตรง

  6. การพิมพ์ 3 มิติในงานวิศวกรรม
    มนุษย์ออกแบบชิ้นงานในซอฟต์แวร์ และ Cobots ช่วยในกระบวนการพิมพ์หรือตัดแต่งชิ้นส่วนโดยอัตโนมัติ

Cobots ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน และส่งเสริมความปลอดภัยในหลายอุตสาหกรรม!
 


 

บริษัท FreshGoods Co. โรงงานผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น สบู่เหลวและน้ำยาล้างจาน เผชิญกับปัญหาพนักงานเหนื่อยล้าจากงานที่มีความซ้ำซ้อน เช่น การบรรจุขวดและการจัดเรียงสินค้าลงกล่อง นอกจากนี้ยังมีข้อผิดพลาดจากมนุษย์ในกระบวนการบรรจุสินค้า

การแก้ปัญหาด้วย Cobots:

  1. ติดตั้ง Cobots ในสายการผลิต:

    • บริษัทติดตั้ง Cobots ที่สายการบรรจุสินค้า โดย Cobots ถูกตั้งโปรแกรมให้ทำหน้าที่เติมของเหลวลงขวด ปิดฝา และจัดเรียงขวดลงกล่อง

    • Cobots ถูกออกแบบให้ทำงานร่วมกับมนุษย์อย่างปลอดภัย ด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว หากมนุษย์เข้าใกล้เกินไป Cobots จะหยุดทำงานทันที

  2. แบ่งหน้าที่การทำงาน:

    • Cobots: ทำงานที่ต้องใช้ความแม่นยำและซ้ำซ้อน เช่น การบรรจุและปิดฝาขวด

    • มนุษย์: ตรวจสอบคุณภาพสินค้า และจัดการปัญหาที่ต้องใช้การตัดสินใจ เช่น การแก้ไขข้อผิดพลาดในการพิมพ์ฉลาก

  3. การทำงานร่วมกัน:

    • พนักงานคนหนึ่งตรวจสอบขวดที่ Cobots บรรจุเสร็จแล้ว หากพบปัญหา เช่น ฝาขวดปิดไม่สนิท พนักงานสามารถหยุดการทำงานของ Cobots ชั่วคราวเพื่อแก้ไข

    • หลังจากแก้ไขเสร็จ Cobots จะกลับมาทำงานต่อโดยอัตโนมัติ

  4. ผลลัพธ์ที่ได้:

    • ลดความเหนื่อยล้าของพนักงาน เนื่องจากไม่ต้องทำงานที่ซ้ำซ้อนและหนัก

    • เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตขึ้น 25% เพราะ Cobots สามารถทำงานได้ต่อเนื่องตลอดเวลา

    • ลดข้อผิดพลาดในกระบวนการบรรจุสินค้าได้ถึง 30%

ตัวอย่างในผลิตภัณฑ์จริง:

  • สายการผลิตสบู่เหลวรุ่น FreshClean ที่มี Cobots ทำงานร่วมกับพนักงาน 5 คน สามารถผลิตได้ถึง 10,000 ขวดต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ผลิตได้ 8,000 ขวด

ประโยชน์ที่ชัดเจน:

  • พนักงานมีความพึงพอใจมากขึ้น เพราะไม่ต้องทำงานหนักเกินไป และได้โอกาสพัฒนาทักษะในงานที่ต้องใช้ความคิด

  • ลดต้นทุนด้านเวลาและค่าแรงในงานที่ซ้ำซ้อน

  • ส่งเสริมความปลอดภัยในสายการผลิต เนื่องจาก Cobots ลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บที่อาจเกิดจากงานหนัก

ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นว่า Cobots ช่วยสร้างสมดุลระหว่างการใช้เทคโนโลยีและแรงงานมนุษย์ เพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพในกระบวนการผลิตได้อย่างยั่งยืน.