เทคโนโลยีการเคลือบผิวเครื่องมือตัด (Cutting Tool Coatings)


Posted 14 Feb 2025 10:43 | 74 views

เทคโนโลยีการเคลือบผิวเครื่องมือตัดเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพ และ อายุการใช้งาน ของเครื่องมือที่ใช้ในการตัดเฉือนวัสดุ เช่น ดอกสว่าน เอ็นมิล และเม็ดมีดกลึง โดยการเคลือบชั้นบางๆ บนพื้นผิวของเครื่องมือเพื่อลดการสึกหรอและเพิ่มความสามารถในการตัด

หนึ่งในเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวหน้าคือ Nano-Coating ซึ่งช่วยปรับปรุงคุณสมบัติของเครื่องมือตัดให้มี ความแข็งแรง ทนทาน และลดแรงเสียดทาน ได้ดีกว่าเทคโนโลยีเดิม


cr.https://www.thaiparker.co.th/th/articles/processing-service/cutting-tool-machining

1. เทคโนโลยี Nano-Coating และประเภทของการเคลือบผิวเครื่องมือตัด

  • Nano-Coating คืออะไร?

Nano-Coating เป็นการเคลือบที่ใช้ ชั้นนาโนเมตร (Nanometer Scale Coating) ซึ่งช่วยเพิ่ม ความแข็งแรง ความทนทานต่อการสึกหรอ และลดแรงเสียดทาน ทำให้เหมาะกับงานตัดเฉือนวัสดุที่มีความแข็งสูง เช่น ไทเทเนียม ซูเปอร์อัลลอยด์ และเหล็กชุบแข็ง

  • ประเภทของสารเคลือบผิวเครื่องมือตัด

ประเภทของสารเคลือบ คุณสมบัติเด่น การใช้งานที่แนะนำ
TiN (Titanium Nitride) เพิ่มความแข็งแรงและลดการยึดติดของเศษโลหะ การกัดกลึงทั่วไป, อลูมิเนียม, สเตนเลส
TiCN (Titanium Carbonitride) แข็งกว่า TiN ทนต่อแรงกระแทกสูง การตัดเฉือนความเร็วสูง, เหล็กกล้าคาร์บอน
AlTiN / TiAlN (Aluminum Titanium Nitride) ทนความร้อนสูง ใช้งานอุณหภูมิสูงได้ดี การกัดกลึงโลหะแข็ง เช่น ไทเทเนียม, นิกเกิลอัลลอย
CrN (Chromium Nitride) ทนต่อการสึกหรอสูงและลดแรงเสียดทาน เครื่องมือตัดที่ใช้กับพลาสติกหรือโลหะนิ่ม
Diamond-Like Carbon (DLC) ลดแรงเสียดทานสูงสุด ใช้กับวัสดุที่ไม่ใช่โลหะ การตัดเฉือนวัสดุคอมโพสิต, คาร์บอนไฟเบอร์, อลูมิเนียม
CVD Diamond Coating ทนต่อการสึกหรอสูงที่สุด ใช้กับวัสดุที่แข็งมาก การตัดเฉือนเซรามิก, คาร์ไบด์, คอมโพสิต

2. เปรียบเทียบอายุการใช้งานและประสิทธิภาพของเครื่องมือตัดแบบใหม่กับแบบเดิม

การใช้เครื่องมือตัดที่มี Nano-Coating หรือการเคลือบผิวสมัยใหม่ช่วยให้เครื่องมือมี อายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และ ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องมือตัดแบบเดิม ที่ไม่มีการเคลือบ

คุณสมบัติ
 
เครื่องมือตัดแบบดั้งเดิม
(ไม่มีเคลือบผิว)
เครื่องมือตัดแบบใหม่
(มี Nano-Coating)
ความแข็งแรงของเครื่องมือ น้อยกว่า สึกหรอง่าย แข็งแรงกว่า ทนทานต่อการสึกหรอ
ความสามารถในการตัดเฉือน อาจต้องใช้แรงตัดมากขึ้น ลดแรงตัด ลดแรงเสียดทาน
อายุการใช้งาน สั้น เปลี่ยนเครื่องมือบ่อย อายุการใช้งานยาวขึ้น 3-5 เท่า
ความต้านทานต่ออุณหภูมิสูง ทนความร้อนได้น้อย เสี่ยงต่อการแตกร้าว ทนความร้อนสูงขึ้น ลดการแตกร้าว
คุณภาพพื้นผิวของชิ้นงาน อาจมีการเผาไหม้หรือขรุขระ ผิวงานเรียบขึ้น ลดการเกิด Burr
ต้นทุนการผลิต                                        สูงขึ้นเพราะเปลี่ยนเครื่องมือบ่อย ลดต้นทุนในระยะยาวจากอายุเครื่องมือที่ยาวขึ้น

 

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • เครื่องมือที่มีการเคลือบแบบ Nano-Coating สามารถยืดอายุการใช้งานได้ 3-5 เท่า เทียบกับเครื่องมือที่ไม่มีการเคลือบ
  • ลดการเปลี่ยนเครื่องมือบ่อย ลดต้นทุนการผลิต
  • เพิ่มความเร็วในการตัดเฉือน ทำให้ได้ผลผลิตมากขึ้น

3. ประโยชน์ของเทคโนโลยี Nano-Coating ต่อภาคอุตสาหกรรม

# อุตสาหกรรมอากาศยาน (Aerospace)

  • การกลึงและกัดชิ้นส่วนไทเทเนียมและวัสดุทนความร้อนสูง
  • ลดการสึกหรอของเครื่องมือขณะตัดเฉือนชิ้นส่วนเครื่องยนต์ไอพ่น

# อุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive & EVs)

  • ใช้ตัดเฉือนเหล็กกล้าแข็งและอลูมิเนียมที่ใช้ทำชิ้นส่วนเครื่องยนต์
  • ช่วยเพิ่มความเร็วในการผลิตชิ้นส่วนที่มีความแม่นยำสูง

# อุตสาหกรรมแม่พิมพ์และเครื่องมือ (Tooling & Molds)

  • ใช้เครื่องมือตัดที่เคลือบ TiAlN หรือ Diamond Coating เพื่อลดการสึกหรอของแม่พิมพ์
  • ช่วยให้แม่พิมพ์พลาสติกและโลหะมีอายุการใช้งานนานขึ้น

# อุตสาหกรรมพลังงาน (Energy & Oil & Gas)

  • ตัดเฉือนโลหะผสมพิเศษ เช่น Inconel, Hastelloy ซึ่งใช้ในกังหันก๊าซและท่อแรงดันสูง
  • ลดการแตกหักของเครื่องมือตัดในงานที่มีแรงกดสูง

สรุป

 O  Nano-Coating เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยให้เครื่องมือตัดมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีข้อดีหลักดังนี้:

   1. อายุการใช้งานยาวขึ้น – ลดการเปลี่ยนเครื่องมือ ลดต้นทุน
   2. เพิ่มประสิทธิภาพการตัดเฉือน – ลดแรงเสียดทานและปรับปรุงความเร็วในการตัด
   3. รองรับวัสดุที่แข็งและทนทานกว่าเดิม – ตัดไทเทเนียม นิกเกิลอัลลอย และคอมโพสิตได้ดีขึ้น
   4. ช่วยให้ชิ้นงานมีคุณภาพสูงขึ้น – ลดการสึกหรอและทำให้ผิวงานเรียบขึ้น

 O เทคโนโลยี Nano-Coating จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในอุตสาหกรรมยุคใหม่